มาเล่าประสบการณ์เฉียดตาย หลังจากรอดมาได้หวุดหวิด จากเหตุการณ์รถคว่ำ

เมื่อวันอังคารที่ 11/2/57 แฟนชวนไปดู Concert avril lavigne ทางบ้านบอกว่า อย่าขับรถไปเลย นั่ง Taxi ไปดีกว่า ก็เลยบอกที่บ้านว่า ไปอะได้ แต่จะกลับยังไง เค้าเลิกพร้อมกันหมด ขนาดน้องสาวที่เคยไปดู Concert ยังถึงกับต้องติดรถคนอื่นกลับบ้าน ประสบการณ์ตรงมีเยอะ เช่นไปผับ กลับ Taxi ก็รอไปเถอะ เราเลยตัดสินใจขับรถไปดีกว่า ซึ่งก็ปกติไม่มีอะไร กลับจากเมืองทองมาถึงบ้านก็ประมาณ 4 ทุ่ม แต่ด้วยความที่ว่า

ส่วนตัวเป็นคนที่ขายของทาง Internet กลับบ้านมาเสร็จ เลยต้องนั่งแพคของยันตี 1 กว่าจะเสร็จ พอแพคของเสร็จ ก็บอกกับแฟนว่ากลับบ้านละนะ นี่มันตี 1 แล้ว มือถือก็แบตหมด เพราะนั่งเปิด email แล้วก็ไล่ pack ของไปเรื่อยๆ จนเสร็จ ขากลับเลยเสียบสาย usb กับมือถือเอาไว้ ก็ลาแฟนแล้วก็ขับรถกลับบ้านปกติ เส้นขาเข้าพระราม 2 ขับจากสมุทรสาคร แต่ทีนี้มันมามีประเด็นตรงขากลับครับ ตอนนั้นก็ตี 1 กว่าๆ ละ ไอผมก็รีบ เหยียบมา 100+ เผลอๆ จะ 120+ ด้วย ทีนี้มันมีอยู่ช่วงนึง ถ้าผมจำไม่ผิด ผมรู้สึกเหมือนมีคนพยายามจะเดินข้ามถนน เลนกลาง ผมเลยพยายามจะหักรถหลบ แล้ว....

มาโผล่อีกที ที่โรงพยาบาลพระราม 2 ครับ ได้สติมา ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ ตำรวจมาถามว่า มาคนเดียวรึเปล่า ไอเราซึ่งจำอะไรไม่ได้เลย ก็บอกว่า แฟนผมไปไหน ช่วยหาแฟนผมด้วย ตอนนั้นเป็นกังวลมาก เพราะจำอะไรไม่ได้เลย มันเร็วมาก แล้วในรถ ก็มีรองเท้าแม่ ที่แฟนเอามาใส่ ตำรวจก็คิดว่ารองเท้าอยู่นี่ แล้วคนไปไหน คิดว่ากระเด็นออกนอกรถไป เลยตามหากันให้ควัก ตำรวจมาถามเราขอเบอร์ติดต่อที่บ้านหน่อย เราก็จำได้แค่เบอร์บ้านกับ เบอร์แฟน ให้เบอร์บ้านไป ตำรวจโทรไปถามที่บ้าน พ่อก็ไม่ฟังอะไร นึกว่าโดนโทรมาหลอกลวง พอบอกลูกชายรถคว่ำ ถึงค่อยๆ เชื่อ ส่วนเบอร์แฟน โทรไป แฟนก็ไม่รับ และปิดเครื่องใส่ เพราะคิดว่าเป็นลูกค้าโทรมากวนตอนดึกๆ (ตี 2 แล้ว) ขอขั้นด้วยภาพรถผมก่อน 1 ภาพ



จากนั้นพอพ่อเชื่อว่าเกิดเหตุจริง เลยไปหาแฟนถึงบ้าน เพื่อพามาดูอาการผมที่ รพ. แฟนมาถึงก็โฮเลย เพราะพ่อเอาแต่บอกแฟนว่า สแกนสมองอยู่ (ไซโคกันน่าดู) พอผมเห็นหน้าแฟน ผมก็เริ่มโล่งใจ ว่าแฟนไม่เป็นอะไร และเริ่มจะประติด ประต่อเรื่องขึ้นมาได้ทีละนิดๆ และจำได้ว่า เราไปส่งแฟนก่อนแล้วนี่หว่า ทีนี้มาดูที่ร่างกายผม แทบจะไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีอะไรแตกหัก มีแค่แผลที่แขนซ้ายซึ่งโดนกระจกทิ่มเข้าไป เย็บ 3 เข็ม ที่เหลือ ก็มีบาดแผลเล็กน้อยที่หน้า กับคอเคล็ด เอวเคล็ดเล็กน้อย แต่มันต่างกันมาก กับสภาพรถของผม



จริงๆ จากสภาพรถของผม ผมรอดมาได้ก็บุญมากๆ แล้ว ยิ่งถ้าแฟนผมมาด้วยนี่ล่ะก็ ไม่ต้องสืบกันเลยทีเดียว แถมตัวผมเองยังแทบจะไม่มีแผลอะไรเลย ผมขับ New City ครับ เพิ่งผ่อนหมดเดือน 2 นี้เลย แต่คงต้องขายซาก ซื้อคันใหม่ซะแล้ว เละขนาดนี้ (ก่อนหน้านี้มีบ่นอยากได้ New City ตัวใหม่อยู่ haha) ดีนะครับ ที่ผมคาดเข็มขัดด้วย

ทีนี้มาดูว่า มีอะไรหายไปบ้าง ปรากฎว่า มีแค่ iPhone 5S สีทองของผมที่หายไป ผมว่าคงกระเด็นหายไปนั่นแหละ เพราะแบตมันหมดอยู่ตอนนั้น และผมใช้ Find my iPhone หาแล้วไม่เจอ หรือไม่มีเด้งเตือนอะไรเลย แต่มันกลับแปลก กระเป๋าเป้ที่ผมใส่ Macbook Air ไว้ข้างคนขับ ไม่เป็นอะไรเลย และไม่หายด้วย ทั้งที่สภาพข้างคนขับนั้นเละเทะสุดๆ และกระเป๋าตังค์ผมก็ไม่ได้หายไป ผมเลยไม่คิดว่าหน่วยกู้ภัย หรือใครจะขโมยมือถือผมไป คงหายไปเอง

จากนั้นพอรอดมาได้ ก็เริ่มจะถามถึงเรื่องประกันครับ คิดในใจ ไอตอนจ่ายประกันนี่มันง่ายจริงๆ พอตอนจะเอาประกัน นี่ต้องเอาเอกสารอะไรไม่รู้เยอะแยะมายืนยัน มีบอกให้ ไปแงะในรถฝั่งข้างคนขับด้วยนะ เพราะผมชอบไว้เอกสารเกี่ยวกับรถไว้ตรงนั้น ที่บ้านเราก็ไม่รู้ จะไปคุยกับตำรวจเรื่องแงะรถจะเอาเอกสาร ตำรวจบอกว่า ไม่ต้องไปแงะเลย มันจะเสียรูปคดี ทำไป ทำมา ไปได้เพื่อนคนนึ่งช่วยไว้ ชื่อหมู ช่วยเดินเรื่องตามเอกสารให้หมดเลย ทั้งที่เพื่อนคนนี้ผมไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ (แต่มีเรื่องนึงก่อนหน้านี้ ผมช่วยเค้าแก้ไวรัสใน Flash Drive เพราะเค้ามาขอร้องบอกว่าต้องใช้สมัครงานให้อีกวันถัดไป) ส่วนเพื่อนที่เป็นนายหน้าขายประกันให้ผมจ่ายปีละ 2 หมื่น ไม่มาเยี่ยม มีเพียงข้อความอวยพรบน Facebook เท่านั้น



ผมให้น้องสาวโทรไปบอกที่ office ว่า ผมรถคว่ำนะ ซึ่งผมก็ไม่มีเบอร์ใครเลย เพราะมือถือผมหาย ผมเลยให้โทรเข้า Call Center และให้แฟนโพสเฟสว่าผมรถคว่ำ กลายเป็นเรื่อง Boss ไม่รู้เรื่องมาหาว่าเราไปโทรเข้า Call ทำไม และทำไมหัวหน้าเราเองไม่รู้ข่าว ทำไมเราไม่โทรไปแจ้ง ทำไมปล่อยให้คนอื่นเห็นในเฟสแล้วรู้ก่อน -*- (ก็มือถือผมหายนี่ครับ)

ก็ยังดีที่วันวาเลนไทน์ผมยังรอดมาได้



หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป มีแต่คนถามว่า ผมห้อยพระอะไร เห็นจากสภาพรถแล้วไม่น่ารอด ผมบอกเลย ว่าไม่ได้ห้อยพระอะไรเลยครับ คงเป็นเพราะความดีมั้ง ส่วนตัวหาเงินเลี้ยงพ่อ เลี้ยงแม่ ถ้าเราเป็นอะไรไป ที่บ้านลำบากแน่ๆ (พูดไปนั่น) ส่วนตัวเป็นคนที่ขับรถแล้วชอบหลับใน เพราะเป็นคนหลับง่าย ขับรถไปต่างจังหวัดไม่ได้เลย เคยบอกเพื่อนหลายทีแล้ว ว่าเราขับรถไกลๆ ไม่ได้ มันจะหลับ ก็กลัวจะไปเป็นภาระเพื่อนเหมือนกัน แต่จากเหตุการณ์นี้ คงเข้าใจกันแล้ว ว่าไม่ได้อ้างนะจะบอกให้ ตอนนี้ก็ยังเจ็บแขนซ้ายอยู่ แต่เจ็บแค่นิดหน่อยเท่านั้น

เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้ว่า
- ไม่ควรขับรถเร็ว
- ควรรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
- ไม่ควรกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ

ต่อไป กำลังคิดอยู่ ว่าจะออกรถอะไรดี
- City ตัวใหม่ หรือ Civic
- หรืออื่นๆ ใครเชี่ยวชาญ แนะนำด้วยครับ

ปล. ขออภัย หากพิมพ์อะไรผิดพลาดไป เพิ่งกลับจาก รพ. มาถึงบ้าน มีเพื่อนแนะนำว่าไปโพส pantip สิ เลยมาโพสครับ ปกติดูแต่ชาวบ้านตั้งกระทู้กัน ตอบอย่างเดียว เพิ่งจะเคยตั้งกระทู้ยาวเฟื้อยๆ แบบนี้ครังแรกครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่